อยู่กับความรักแบบไหนให้อยู่กันได้ยาวนานที่สุด

เรื่องของความรักมีหลายแบบหลายอย่าง วันนี้จะขอมาคุยเกี่ยวกับเรื่องความรักแบบหนุ่มสาว ความรักแบบคู่รัก บางคนเจอกันแค่ครั้งแรกก็ตกหลุมรักกันที่สุดแล้ว ยอมพลีกายพลีใจให้กันและกันในคืนแรกที่ได้เจอกัน ไม่ผิดไม่แปลกที่จะทำตามใจที่ต้องการ แต่จะทำอย่างไรให้ความรักอยู่กันได้อย่างยาวนานและครองรักกันแบบยั้งยืนไปตลอดกาล หลายคนเจอกันวันแรกก็ไม่อยู่ด้วยกันต่อแล้ว แต่กลายเป็นว่ารักแบบจานด่วนเจอกันด้วยความสะดุดตาแต่พอได้พูดจาคุยกันก็รู้ทันทีว่าไปด้วยกันไม่ได้ แบบนี้ก็ง่ายและเร็วต่อการตัดสินใจดี คนรุ่นใหม่ไม่ชอบทำอะไรที่ช้าชอบทำอะไรที่รวดเร็วตัดสินใจเร็วและมองมุมแค่เพียงด้านเดียว
คำว่ามองมุมแค่เพียงด้านเดียวคือส่วนที่ทำให้การตัดสินใจหลายๆ อย่างนั้นพลาดเพราะความคิดที่ทำให้เราคิดว่าเราต้องการผลตอบรับกลับมาอย่างรวดเร็ว ต้องการผลตอบรับกลับมาแบบตรงไปตรงมา ทำให้เมื่อได้รับการตอบกลับที่ไม่ตรงตามความต้องการ ก็ตัดสินใจทันทีเลยว่าเราไม่เข้ากัน ไม่ตรงกันไปด้วยกันไม่ได้ จนหลายๆ ครั้งก็ต้องผิดหวังกับสิ่งที่ได้รับกลับมา มีตัวอย่างให้เห็นกันอยู่มากมาย อย่างข่าวล่าสุดที่มีชายหนุ่มที่ไปพูดคุยกับสาวสวยเพียงแค่ไม่กี่วันก็ตกลงแต่งงานกันจัดงานใหญ่โต แล้วสุดท้ายก็พระเจ้าช่วยกล้วยทอดกลายเป็นเรื่องราวกลับตาลปัด เพราะเจ้าสาวคนสวยถูกชายหนุ่มหลอกจัดฉากทุกอย่างให้ดูดีอย่างที่สาวๆ หลายๆคนต้องการ เป็นเรื่องเป็นราวสูญเงินหลายล้านบาทไปแบบไม่รู้ตัว
การเจอกันครั้งแรก หรือที่ ฝรั่งเขาเรียกว่า first impression ก็เกิดความประทับใจกัน แต่สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจกันหลังจากนั้นต่างหากที่จะต้องเปิดใจให้กว้างกว่า 360 องศา เรียกว่าต้องเปิดรับทั้งหมดของเขาที่เข้ามาและเราก็ควรต้องเปิดความรู้สึกของเราทั้งหมดด้วยเหมือนกัน เราเป็นแบบไหน นิสัยใจคอเป็นอย่างไรก็ต้องแสดงตัวตนให้เขาได้รับรู้ แต่ส่วนใหญ่เรามักจะทำตัวให้เขาพอใจเพื่ออยากจะได้เขามาครอบครองจนลืมไปว่าตัวเรานั้นเป็นอย่างไร เมื่อได้รับความรักจากเขาแล้ว คราวนี้เราก็จะค่อยๆ แสดงตัวตนออกมาค่อยๆ แสดงความเป็นตัวจริงทำให้อีกฝ่ายก็รับไม่ค่อยได้กับสิ่งที่เราเป็น หรือภาษาชาวบ้านก็จะใช้คำว่า ได้แล้วทิ้งกันไป แบบนี้ก็ไม่ค่อยที่จะถูกต้องสักเท่าไหร่ ไม่นานนักก็จะเกิดปัญหาตามมาอย่างยาวนาน
การคบกันตั้งแต่แรกควรเปิดใจทำความเข้าใจกันเสียก่อน เราไม่จำเป็นต้องปรับตัวให้เขากับเขาได้ทั้งหมด แต่ควรเปิดใจรับเขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราบ้าง บางอย่างที่เราสามารถรับได้ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดใจก็บอกกับเขาไปตามตรง หรือบางเรื่องที่เรารู้สึกว่ามันไม่พอดีกับเรา เมื่อเขาทำแล้วปฏิบัติแล้วเรารู้สึกว่ามันทำให้เราอึดอัด แต่อีก 9 ส่วนของเขามีดีจนเราอยู่ด้วยแล้วมีความสุขเป็นที่สุด ก็อาจจะมองข้ามไปบ้างหรืออธิบายให้เขาเข้าใจในเรื่องที่เรากำลังเจอ ถ้าเขาสามารถปรับลดได้หรือ ปรับเปลี่ยนได้ก็จะถือว่า win กันทั้งคู่ อย่างบางคู่ตอนที่เจอกันครั้งแรกก็ไม่เคยเห็นเขาสูบบุหรี่แต่พอเริ่มผ่านไปได้สักระยะ ก็เริ่มเห็นถึงความเป็นจริง ซึ่งตรงนี้หลายๆ คนก็ไม่ชอบเรื่องการสูบบุหรี่อยู่แล้ว ก็อาจจะคุยกปรับกันว่า สูบให้ห่างกันสักหน่อย แล้วค่อยลดบ้างก็จะดีพูดถึงข้อดีค่อยๆ บอกกล่าว อย่างนุ่มนวล เพราะตรงนี้เขาสูบบุหรี่ก่อนที่จะมาเจอกับคุณด้วยซ้ำ
แต่ความเป็นจริงเรื่องราวบางอย่างอาจจะถึงขั้นที่เรารับไม่ได้ อาจจะมีการถกเถียงกันอยู่บ่อยครั้ง ตรงนี้อาจจะต้องใช้คำเด็ดขาด เพื่อตัดสินการแก้ปัญหาให้จบในครั้งเดียว ถ้าไม่อยากจะใช้ชีวิตติดจั่น ติดกรงอยู่กันแบบทนอยู่ไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรดีขึ้น ควรต้องแสดงออกตั้งแต่เริ่มคบกัน ค่อยๆปรับจูนเข้าหากัน และก่อนที่จะพูดจาขอเรื่องบางเรื่องที่เราต้องการ ก็ควรต้องคิดให้ดี คิดให้มาก แล้วบอกถึงเหตุผลมากกว่าอารมณ์ว่าเพราะอะไร เรื่องที่ยากก็จะกลายเป็นง่าย ยกตัวอย่างเดิมอย่างการที่ชอบสูบบุหรี่ ค่อยๆ บอกกันไป ความเป็นจริงก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากนัก แต่ถ้าพูดถึงข้อดีให้บ่อยๆ สุดท้ายก็จะจบลงด้วยดี
ตัวผู้พูดเองก็เช่นกัน เปิดใจรับฟังทุกความคิดเห็น ทุกเรื่องที่เขาพูดเน้นจับประเด็นแต่ใจความสำคัญอย่าเอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าคำพูดนั้นแรงเกินไปก็ให้รีบบอกกับเขาและแก้ไข คำพูดกันใหม่ คำว่าขอโทษคือส่วนที่สำคัญที่สุดใช้ได้กับทุกสถานการณ์ อย่ารอให้เรื่องมันใหญ่โตแล้วค่อยมาบอกคำว่าขอโทษกัน ชีวิตที่จะอยู่ด้วยกันได้ก็ต้องเท่ากันเสมอกัน
คำว่าความรักนั้นมันกว้างใหญ่กว่าท้องฟ้าและมหาสมุทรรวมกันด้วยซ้ำ ไม่มีสิ่งใดมาเปรียบได้ว่าใครรักใครมากกว่ากัน แต่สิ่งที่จะอยู่ด้วยกันได้คือความเข้าใจกัน และรับฟังทุกอย่างที่อีกฝ่ายพูดมา ถ้าเราสามารถรับฟังทุกเรื่องและช่วยเขาแก้ไขปัญหา หรือเป็นที่ระบายตอนที่เขาทุกข์ได้ แค่นี้ก็ครองรักได้อย่างยาวนานแล้ว